วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2550

อยากบอกว่าเธอบาป

ในปัจจุบันชุดข้อมูลในงการ ICT มีความผสมผสานปะปนกันระหว่างความหมายของคำสองคำนั่นคือ คำว่าแฮกเกอร์ (hacker) กับคำว่าแคร็กเกอร์ (cracker)
ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีความสับสนเป็อย่างมากทั้งในแง่การให้ความหมายและความเข้าใจของการใช้คำ เพราะโดยส่วนใหญ่จะเข้าใจความหมายของคำว่าแฮกเกอร์ที่เป็นไปในทางชั่วร้าย แต่ที่แท้จริงแล้วแฮกเกอร์ หมายถึงบุคลากร ICT ที่มีความสามารถถึงขั้นเซี่ยน เพราะแฮกเกอร์นั้นมีสมรรถนะทางโลจิก (logic) ที่สูงมาก แฮกเกอร์ในความหมายที่ถูกต้องคือ ผู้ทรงความรู้ในการสืบค้นจุดด้อยและรูรั่วของระบบคอมพิวตอร์
ส่วนแคร็กเกอร์นั้นมีความหมายที่ตรงกันข้ามกับนิยามของแฮร์เกอร์ เพราะแคร็กเกอร์หมายถึง ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ แต่ว่าแคร็กเกอร์นั้นเมื่อมีชอ่งโหว่ของระบบคอมพิวเตอร์แล้วก็มักดำเนินการไปในทางที่ไม่ดี เช่น การเข้าไปรื้อทำลาย หรือเคลื่อนย้ายข้อมูลและหนักที่สุดคือ การเข้าไปขโมยข้อมูล
ทุกวันนี้จะมีการสลับคำสอง คือ คำว่าแฮกเกอร์ และแคร็กเกอร์ จนเกิดความโกลาหลในแวดวง ICT ด้วการเปลี่ยนตำแหน่งให้แฮกเกอร์กลายไปเป็นฝ่ายอธรรม และแคร็กเกอร์กลายมาเป็นฝ่ายธรรมะ ดังนั้นจึงได้มีการจัดระเบียบแฮกเกอร์เสียใหม่ โดยจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ แฮกเกอร์หมวกขาว (White hat) และแฮกเกอร์หมวกดำ (Black hat) ซึ่งจะมีควาแตกต่างกัน คือ แฮกเกอร์หมวกขาว เป็นพวกที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบคอมพิวเตอร์อย่างดีเยี่ยม สามารถค้นพบช่องโหว่แล้วแจ้งเตือนให้เจ้าของระบบได้รับรู้ อีกทั้งยังนิยมศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม แบ่งปันความรู้ที่ได้ เลยไม่เคยมีความคิดทำลายข้อมูลโดยมีเจตนา ส่วนแฮกเกอร์หมวกดำ คืออาศัยช่องรั่วนั้นเบียดแทรกเข้าไปปู้ยี่ปู้ยำระบบคอมพิวเตอร์
นอกจากจะมีแฮกเกอร์สองประเภทนี้แล้ว ยังมีแฮกเกอร์อีกขั่วหนึ่ง คือ แฮกเกอร์หมวกเทา(Gray hat) คือพวกที่พอพบรูรั่วของระบบคอมพิวเตอร์ เมื่อใดก็ชอบคาบข่าวช่องโหว่เอาไปประกาศในที่สาธารณะและที่สำคัญในปัจจุบันนี้แฮกเกอร์เทานั้นมีปริมาณมากเป็นอันดับหนึ่งของบรรดาแฮกเกอร์ที่มีอยู่ในโลก และยังมีแฮกเกอร์อีกประเภทหนี่งนั้นคือแฮกเกอร์เด็กฝึกงานหรือแฮกเกอร์ละอ่อน(Script kiddic)โดยแฮกเกอร์เด็กฝึกงานพวกนี้นับเป็นละอ่อนจริงๆ คือมักจะเป็นเด็กๆเสียส่วนใหญ่ มักสร้างความเสียหายให้แก่ระบบคอมพิวเตอร์ตัวจริง – เสียงจริง เพราะแฮกเกอร์ละอ่อนนี้มักจะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์สักเท่าไร
ส่วนเทคนิคต่างๆที่พวกแฮกเกอร์นิยมใช้มีอยู่กี่แบบ เทคนิคที่หนึ่งคือ การปฎิบัติการถล่มเซิร์ฟเวอร์ ยังส่งผลให้เครื่องเซิร์ฟเวอร์นั้นๆปฏิเสธการให้บริการแก่คอมพิวเตอร์ลูกข่ายและทำให้ตกอยู่ใต้ความควบคุมของแฮกเกอร์ เทคนิคที่สองคือ การแฮกเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ระบบใดระยยหนึ่ง เพื่อตั้งเวลาให้เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆ เกิดอาการรวนเปรียบไป อีกเทคนิคหนึ่งคือ การแฮกเข้าไปทำการแปลงแปรข้อมูลของผู้อื่น เช่น แปลงข้อมูลบัตรเครดิต หรือแปรเศษสตางค์ในบัญชีธนาคารของคนอื่นมาเข้ากระเป่าตนเอง

ข้อเสนอแนะ
1. ผู้ที่เป็นนักคอมพิวเตอร์ควรจะมีจริยธรรมและจรรยาบรรณในตนเอง
2. การแฮกข้อมูลของผูอื่นป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลซึ่งจะมีความผิดทางกฎหมาย
3. บริษัทควรจะมีโปรแกรมที่มิดชิดป้องกันการแฮกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ และ ป้องกันการแปลง และแปรข้อมูลของบริษัท
4. การแฮกข้อมูลสร้างความเสียหายแก่สังคมและประเทศชาติ

คะแนน 5+2.5 น.ส. ฟาอีซา มามะ รหัส 47012231

ไม่มีความคิดเห็น: